อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

      อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่   ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่  4  จังหวัด  11  อำเภอ  ได้แก่  อำเภอมวกเหล็กอำเภอแก่งคอย  จังหวัดสระบุรี  อำเภอปากช่อง  อำเภอวังน้ำเขียว  จังหวัดนครราชสีมา  อำเภอนาดีอำเภอกบินทร์บุรี  อำเภอประจันตคาม  อำเภอเมืองปราจีนบุรี  จังหวัดปราจีนบุรี และอำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา  อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก  เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย  ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ  เมื่อวันที่  18  กันยายน  พ.ศ. 2505  และได้รับสมญานามว่า  เป็น "อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน“ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  มีเนื้อที่ปกคลุม  2,168 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย  ป่าเบญจพรรณ  ป่าดงดิบแล้ง ป่าดงดิบชื้น  ป่าดิบเขา  ทุ่งหญ้า  และป่ารุ่นหรือป่าเหล่า  ป่าดงดิบชื้น   ลักษณะป่าชนิดนี้ เป็นป่าที่อยู่ในระดับความสูง  400 - 1,000 เมตร  จากระดับน้ำทะเล  พืชพรรณมี  3,000  ชนิด,นกมี  250 ชนิดและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม  67 ชนิด ซึ่งได้แก่  ช้าง  เสือ  ชะนี  กวาง  และหมูป่า  พบอยู่ตามทุ่งหญ้ากว้างทั่วๆ  ไป

ประวัติ 

      ในสมัยก่อน การเดินทางติดต่อระหว่างภาคกลางกับภาคอีสานนั้น มีอุปสรรคคือจะต้องผ่านป่าดงดิบขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายมากมายทั้งสัตว์ร้ายและไข้ป่า ผู้คนที่เดินทางผ่านป่านี้ล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงได้ขนานนามว่า ดงพญาไฟ ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จผ่านในคราวเปิดทางรถไฟสาย กรุงเทพ - นครราชสีมา ทรงเห็นว่าชื่อดงพญาไฟนี้ ฟังดูน่ากลัว จึงโปรดให้เปลี่ยนชื่อเป็นดงพญาเย็นตั้งแต่นั้นเป็นมา

      เมื่อมีการสร้างทางรถไฟ ชาวบ้านก็ได้เข้ามาจับจองพื้นที่กัน โดยเฉพาะบนยอดเขา โดยถางป่าเพื่อทำไร่ และในปี 2465 ได้ขอจัดตั้งเป็นตำบลเขาใหญ่ แต่ด้วยการที่จะเดินทางมายังยอดเขานี้ค่อนข้างลำบากห่างไกลจากการปกครองของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ตำบลเขาใหญ่จึงเป็นแหล่งซ่องสุมของโจรผู้ร้าย จนกระทั่งปี 2475 ทางราชการได้ส่งปลัดจ่างมาปราบโจรผู้ร้ายจนหมด แต่สุดท้ายปลัดจ่างก็เสียชีวิตด้วยไข้ป่า ได้ตั้งเป็นศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นที่เคารพนับถือจนปัจจุบันนี้ หลังจากปราบโจรผู้ร้ายหมดลงแล้ว ทางราชการเห็นว่าตำบลเขาใหญ่นี้ยากแก่การปกครอง อีกทั้งปล่อยไว้จะเป็นแหล่งซ่องสุมโจรผู้ร้ายอีก จึงได้ยุบตำบลเขาใหญ่ และให้ผู้คนที่อาศัยอยู่บนเขาทั้งหมดย้ายลงมาอาศัยอยู่ข้างล่าง ป่าที่ถูกถางเพื่อทำไร่นั้นปัจจุบันคือยังมีร่องรอยให้เห็นเป็นทุ่งหญ้าโล่งๆ บนเขาใหญ่นั่นเอง 

   ปี 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เล็งเห็นว่าบริเวณเขาใหญ่นี้ มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งมีความสวยงาม เหมาะใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่มีปัญหาคือมีการตัดไม้ทำลายป่า จึงได้ให้มีการสำรวจพื้นที่บริเวณตำบลเขาใหญ่เดิมและบริเวณโดยรอบและได้ตราพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติขึ้น ตั้งเขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติในปี 2505 โดยเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย และได้ตัดถนนธนะรัชต์แยกออกมาจากถนนมิตรภาพมายังตัวเขาใหญ่ โดยถนนนี้ขึ้นมาบนเขาใหญ่แล้วจะแยกเป็นสองสาย คือไปสิ้นสุดที่น้ำตกเหวสุวัตสายหนึ่ง และไปสิ้นสุดที่เขาเขียวอีกสายหนึ่ง ซึ่งก่อนปี  2525 ถนนธนะรัชต์นี้เป็นเพียงถนนสายเดียวที่จะมายังเขาใหญ่ได้ 

 

 

   ในปี   2523 ได้มีการตัดถนนสายปราจีนบุรี - เขาใหญ่  โดยถนนนี้เปิดใช้งานในปี  2525 ทำให้สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น  และเดินทางจากกรุงเทพมหานครใช้ระยะทางสั้นกว่า  อีกทั้งเส้นทางยังชันและมีโค้งหักศอกน้อยกว่าถนนธนะรัชต์เดิม  อีกทั้งยังทำให้การท่องเที่ยวในส่วนใต้ของอุทยานสะดวกขึ้น  เช่น  สามารถเดินทางมายังน้ำตกเหวนรกได้โดยตรง  ซึ่งแต่เดิมจะต้องเดินเท้าเข้ามาจากอำเภอปากพลีแล้วเลาะมาตามหน้าผา แต่การตัดถนนใหม่สามารถนำรถยนต์เข้าไปจอดแล้วเดินเท้าประมาณ  1  กิโลเมตรก็ถึงน้ำตกเหวนรกได้แล้ว   เมื่อวันที่  14  กรกฎาคม  พ.ศ.  2548  อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  ทับลาน  ปางสีดา  ตาพระยา  และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่  ได้รับการประกาศให้เป็น  "มรดกโลกทางธรรมชาติ"  จากองค์การยูเนสโก  ภายใต้ชื่อกลุ่ม  “ดงพญาเย็น-เขาใหญ่”

สถานที่ท่องเที่ยวเขาใหญ่

        เขาใหญ่ หรือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สัตว์ป่าที่สามารถพบได้บ่อยๆ ได้แก่ เก้ง กวาง ตามทุ่งหญ้าทั่วไป นอกจากนี้ยังมี เสือโคร่ง กระทิง เลียงผา หมี เม่น ชะนี พญากระรอก หมาไม้ ชะมด อีเห็น กระต่ายป่า นกชนิดต่างๆ จำนวน 250ชนิด จากจำนวนไม่น้อยกว่า 340ชนิด ที่สำรวจพบอาศัยอยู่บริเวณป่าเขาใหญ่ซึ่งเป็นแหล่งหาอาหารและที่อาศัยอย่างถาวร นกที่น่าสนใจและพบเห็นได้บ่อย ได้แก่ นกเงือก นกขุนทอง นกขุนแผน นกพญาไฟ นกแต้วแล้ว นกโพระดก นกแซงแซว นกเขา นกกระปูด ไก่ฟ้า และนกกินแมลงชนิดต่างๆ นกเงือกทั้ง   4ชนิด ซึ่งได้แก่ นกกก นกเงือกกรามช้าง นกแก๊ก และนกเงือกสีน้ำตาล ที่พบบนเขาใหญ่นับว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักดูนกเป็นอย่างดี เพราะพบเห็นได้ทั่วไป พวกแมลงที่มีมากกว่า   5,000ชนิด ที่สวยงามและพบเห็นบ่อยได้แก่ ผีเสื้อ มีรายงานพบกว่า 216 ชนิด

แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวเขาใหญ่ 

  • น้ำตกเหวนรก
  • น้ำตกผากล้วยไม้
  • น้ำตกเหวสุวัต
  • น้ำตกกองแก้ว
  • น้ำตกเหวไทร
  • น้ำตกเหวประทุน
  • ส่องสัตว์เขาใหญ่
  • หอดูสัตว์หนองผักชี  
  • หอดูสัตว์มอสิงโต                              
  • จุดชมวิวผาเดียวดาย
  • พรีโมพอสโต เขาใหญ่
  • ปาลิโอ เขาใหญ่
  • Mlie Hight Khaoyai
  • The Bloom Khaoyai
  • อ่างเก็บน้ำสายศร
  • Sheep Land เขาใหญ่
  • The Smoke House Khaoyai              

น้ำตกเหวนรก

     เป็นน้ำตกที่เกิดจากคลองท่าด่าน  น้ำตกเหวนรกเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นน้ำตกที่มีความสูงและสวยงามมากแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  แต่เดิมก่อนที่จะมีการตัดถนนสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่นั้น  จะต้องเดินเท้าเข้ามาโดยใช้เวลาไม่น้อยกว่า  6ชั่วโมง  แต่หลังจากตัดถนนสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่เสร็จแล้ว  ถนนตัดผ่านใกล้น้ำตกเหวนรกมาก โดยมีลานจอดรถห่างจากตัวน้ำตกเพียง  1กิโลเมตรเท่านั้น  ระหว่างทางสามารถเดินชมธรรมชาติอันสวยงามสองข้างทางได้   เมื่อถึงตัวน้ำตกจะมีบันไดลงไปอีกราว   50เมตร   ซึ่งค่อนข้างแคบและชัน  แต่เมื่อลงไปถึงจุดชมวิวก็จะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกได้อย่างสวยงาม หากไปในฤดูฝนมีน้ำมาก ละอองน้ำจะกระเซ็นต้องกับแสงอาทิตย์เป็นสายรุ้งอย่างงดงาม  แต่หากมาชมในหน้าแล้งนั้นอาจต้องผิดหวังเพราะไม่มีน้ำ  เห็นแต่เพียงหน้าผาแห้งๆ  เท่านั้น 

   ระหว่างทางเดินมายังน้ำตกเหวนรกนี้ จะสังเกตเห็นแนวคันปูนเป็นระยะ สร้างขึ้นเพื่อป้องกันช้างพลัดตกไปยังน้ำตก ตั้งแต่ในปี 2530 จะมีช้างตกลงไปยังผาข้างล่างปีละเชือกหรือสองเชือกเสมอ และในครั้งใหญ่ที่สุดปี 2535 มีช้างโขลงหนึ่งจำนวน 8เชือกหลงเข้ามาและถูกกระแสน้ำพัดตกลงไปตายหมด ทางอุทยานแห่งชาติจึงได้สร้างแนวป้องกันนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันอันตรายแก่ช้างป่ามิให้เกิดขึ้นอีก    

     ในความเป็นจริงแล้ว  น้ำตกเหวนรกนั้นมีอยู่  2 ชั้น  ที่ได้ชมนี้เป็นชั้นที่ 1 โดยมีความสูงของตัวน้ำตกประมาณ  50 เมตร  ส่วนชั้นที่  2 และ  3 นั้นอยู่ห่างออกไป ซึ่งชั้นที่สองนี้มีความสูงมากกว่าชั้นแรกเสียอีก ในความเป็นจริงแล้วมีเส้นทางสำรวจป่าของทางอุทยาน เพื่อไปยังผาอีกด้านหนึ่ง เพื่อชมทัศนียภาพของน้ำตกชั้นที่สอง และสามแต่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมโดยทั่วไปเนื่องจากเป็นทางเข้าไปในป่าดิบ มีสัตว์ป่าออกหากินตลอด หากต้องการเข้าชมควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานนำทางเข้าไปเพื่อความปลอดภัย และหากต้องการชมทัศนียภาพของน้ำตกชั้นที่ 2 และ 3ให้สวยงามที่สุด ควรเดินทางมาชมในช่วงกันยายนหรือตุลาคม เนื่องจากจะมีน้ำมาก ตกลงมาเป็นละออง และหากมาชมในช่วงเวลา 10นาฬิกา จะเป็นเวลาพอเหมาะที่แสงอาทิตย์ตกกระทบกับละอองน้ำตกเกิดเป็นสายรุ้ง โดยรวมความสูงของน้ำตกชั้นที่ 2 และ 3 นี้ประมาณ 150 เมตร

 

น้ำตกผากล้วยไม้

     เกิดจากห้วยลำตะคอง การเดินทางมาจะต้องจอดรถที่ลานกางเต๊นท์ผากล้วยไม้  แล้วเดินเท้าเลาะไปตามห้วยลำตะคอง  ผ่านป่าดงดิบตลอดทางหากโชคดีอาจพบนกบางชนิด เช่น นกกางเขนหลังเทา เมื่อเดินเข้ามาประมาณ 1.2 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกผากล้วยไม้ มีป้ายเขียนเอาไว้ชัดเจน น้ำตกผากล้วยไม้นั้นลักษณะเป็นผาไม่สูงนัก ชื่อน้ำตกผากล้วยไม้นี้มาจากมีกล้วยไม้หลายชนิดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกล้วยไม้หวายแดง  ซึ่งจะออกดอกช่วงเดินเมษายน ปกติแล้วนักท่องเที่ยวจะนิยมชมน้ำตกบริเวณด้านนอกเท่านั้น  แต่หากเดินเลาะไปตามโขดหินอีกประมาณ  10 เมตร  ก็จะพบน้ำตกชั้นใน  ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้กัน  และหากเดินเลาะมาตามห้วยลำตะคองเรื่อยๆ ก็จะมาทะลุถึงน้ำตกเหวสุวัตได้ 

 

                                                              น้ำตกเหวสุวัต

    เป็นน้ำตกอีกแห่งที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยเกิดจากห้วยลำตะคองไหลตกผ่านหน้าผาสูงราว 25เมตร และมีแอ่งน้ำทางด้านล่างเหมาะแก่การเล่นน้ำเป็นอย่างมาก แต่ทางอุทยานแห่งชาติได้มีป้ายประกาศว่าห้ามเล่นน้ำไว้เนื่องจากกลัวอันตรายว่าจะมีน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน ในฤดูฝนสายน้ำที่ตกลงมาจะเป็นละอองกระจายเต็มไปหมด ทำให้รู้สึกสดชื่นเย็นสบาย แต่หากมาในฤดูน้ำน้อย จะสามารถเดินลัดเลาะเพื่อเข้าไปยังโพรงถ้ำเล็กๆ ใต้หน้าผาน้ำตกได้

  บางคนกล่าวไว้ว่า ชื่อน้ำตกเหวสุวัตนี้  เกิดจากมีโจรชื่อสุวัต  หนีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาจนมุมยังน้ำตกแห่งนี้ เลยตัดสินใจกระโดดลงมายังแอ่งน้ำเบื้องล่าง แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรยืนยัน เป็นเพียงเรื่องเล่าต่อๆ กันมาเท่านั้น 

 

 

     สำหรับห้วยลำตะคองนี้ หลังจากผ่านน้ำตกเหวสุวัตแล้ว ยังมีน้ำตกเหวไทรและน้ำตกเหวประทุนที่อยู่ลึกเข้าไปอีก แต่จะต้องเดินผ่านป่าลึกฝ่าดงทากเข้าไป ควรมีเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วยเนื่องจากในป่าลึกนั้นเส้นทางไม่ชัดเจน อาจพลัดหลงได้ง่าย

                                                      

น้ำตกกรองแก้ว

   เป็นน้ำตกตื้นๆ เกิดจากห้วยลำตะคอง ในฤดูฝนจะดูสวยงามมากเหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ใกล้บริเวณน้ำตกจะมีสะพานแขวนข้ามลำห้วยถึง 2 สะพาน ห้วยลำตะคองเป็นแนวแบ่งเขต 2 จังหวัดคือ นครนายกและนครราชสีมา อยู่ห่างที่ทำการเพียง 100 เมตร

น้ำตกเหวประทุน

      น้ำตกเหวประทุน อยู่ห่างจาก น้ำตกเหวไทร 2 กม. สามารถเดินทางจาก น้ำตกเหวสุวัต หรือเดินจากบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ก็ได้ ระยะทางประมาณ 8กม. ตามเส้นทางสายกองแก้ว-เหวสุวัต

 

น้ำตกเหวไทร

     เป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใต้ถัดไปจากน้ำตกเหวสุวัต  ห่างจากน้ำตกเหวสุวัตประมาณ  700เมตร   น้ำตกนี้มีลักษณะเป็นหน้าผากว้างเต็มลำห้วย  สูงประมาณ  5 เมตร  ในฤดูฝนน้ำตกนี้จะไหลแรงเต็มหน้าผาสวยงามน่าชมมาก การเดินทางไปน้ำตกเหวไทรไปได้  2เส้นทาง คือเดินต่อไปจากเหวสุวัตระยะทางประมาณ 700เมตร หรือจะเดินไปจากที่ทำการอุทยานฯไปตามเส้นทางเดินเท้าสายกองแก้ว-เหวสุวัตก็ได้ ระยะทางประมาณ 11กิโลเมตร ตามสองข้างทางเดินที่ผ่านไป จะมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างอื่นมากมาย เช่น สมุนไพร และเห็ดป่า เป็นต้น

 

 

ส่องสัตว์เขาใหญ่

     ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะมีกิจกรรมนึงที่น่าสนใจก็คือ "ส่องสัตว์" ก็คือต้องติดต่อเช่ารถจากเจ้าหน้าที่เป็นรถกระบะพร้อมไกด์ ที่ถือไฟฉายแรงสูง ขับวนไปมาแถวย่านที่พักและที่ทำการอุทยานที่กลางคืนจะมีกวางป่า และเก้งออกมาเป็นจำนวนมาก คืนไหนโชคดีก็อาจได้เห็นช้าง สามารถติดต่อขออนุญาตได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ หรือที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ก่อนเวลา 18.00 น. ทุกวัน คันละ 500 บาท มีสองรอบ รอบ 1 ทุ่ม และรอบ 2 ทุ่ม

 

อ่างเก็บน้ำสายศร

     เป็นอ่างเก็บน้ำสำหรับใช้อุปโภคบริโภคภายในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเพื่อเป็นแหล่งน้ำของสัตว์ป่า ดำเนินการสร้างโดยนายบุญเรือง สายศร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่คนแรกเมื่อปี 2524 โดยในช่วงที่สร้างนี้ นายบุญเรืองได้กลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานในวาระที่  2 แต่เดิมเรียกกันว่าอ่างเก็บน้ำมอสิงโต โดยเรียกตามชื่อของเขามอสิงโตที่อยู่บริเวณหน้าอ่างเก็บน้ำซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับสิงโต แต่ต่อมาในปี 2550 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นอ่างเก็บน้ำสายศรเพื่อเป็นเกียรติแก่นายบุญเรือง สายศร อดีตหัวหน้าอุทยานเขาใหญ่คนแรก ผู้ซึ่งมีส่วนบุกเบิกในการจัดตั้งอุทยาน และไม่ให้ผู้คนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีสิงโตอาศัยอยู่

 

พรีโมพอสโต เขาใหญ่

         พรีโมพอสโต ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนชุมชนเขาใหญ่  Primo  Posto  เป็นภาษาอิตาเลี่ยน ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษ  หมายถึง  The First Place  ด้วยความตั้งใจของเจ้าต้องการสร้างให้เป็นแหล่งสรรพสิ่งในบรรยากาศแบบอิตาลีที่แห่งแรก   สำหรับนักท่องเที่ยวทีเดินทางมาเขาใหญ่   ท่ามกลางธรรมชาติ บนพื้นที่  50 ไร่ โดยจำลองบรรยากาศและไลฟ์สไตล์ที่คล้ายคลึงกับแคว้นทัลคานีของอิตาลี ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งศิลปะ สถาปัตยกรรม ในยุคเรเนซองส์ และลายล้อมด้วยพื้นที่ที่เขียวชอุ่มท่ามบรรยากาศแห่งขุนเขาชมสดใสสวยงามของไร่องุ่น ให้ความรู้สึกแก่นักท่องเที่ยวเหมือนได้มาเยือนชนบทของอิตาลี   พร้อมทั้งพลาซ่าเล็กๆ   ในมุมพักผ่อนอันประกอบด้วย  ร้านกาแฟอิตาเลี่ยนสไตล์  (Café Momus)  ร้านไวน์ (Divino)  ที่ให้ความความรู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางไร่องุ่น  ร้านอาหาร  โดยร้านอาหารจะเป็นสไตล์แบบ  Home made  หรือที่เรียกกันในอิตาลีว่า Trattoria  และที่ขาดไม่ได้คือ ร้านไอศกรีม  (Dolce Vita)  ร้านขายของที่ระลึก  แกลเลอรี่   นอกจากนั้นเรายังมีสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมจัดงานต่างๆ เพื่อให้เป็นที่พบปะสังสรรค์ ที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว และสามารถมาจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ ได้ เช่น งานแต่งงาน งานวันเกิด จัดงาน Event เปิดตัวสินค้าต่างๆ การฉายหนังกลางแปลงในสวน คอนเสิร์ตในสวน เป็นต้น

 

ปาลิโอ เขาใหญ่

     ปาลิโอ เขาใหญ่ ไม่น่าเชื่อนะคะว่า ที่เขาใหญ่ จ. นครราชสีมา จะมีสถานที่แบบนี้ด้วย ตามความรู้สึกผู้ที่เคยไปมา บอกว่า ที่ปาลิโอ เขาใหญ่นี้คล้ายๆ กับ สยามเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ ค่ะ เป็นแหล่งสำหรับขาช็อป แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียวนะคะ เพราะที่นี่เค้าตกแต่งเป็นสไตล์อิตาลี ..ยุโรปโบราณแนวนี้ค่ะ ..น่าลองไปเที่ยวที่นี่ดูนะคะ!!

    ปาลิโอ เขาใหญ่ New walking street shopping center อาณาจักรใหม่ของชีวิตคนเขาใหญ่ เดินทางสะดวก สู่ศูนย์กลางความทันสมัยของคนเมือง ค้นพบจินตนาการแห่งความสุขที่ไม่สิ้นสุดได้ด้วยตัวคุณ แรงบันดาลใจเกิดขึ้นทุกวินาทีที่ Khaoyai Village Mall สัมผัสสุนทรีย์แห่งความบันเทิงได้ครบทุกความต้องการ คุ้มค่าแก่การลงทุนทำเลทองของนักลงทุนผู้มองการณ์ไกล ครบทุกความพร้อมที่จะทำให้การลงทุนของคุณคุ้มค่าดั่งใจต้องการ รองรับทุกกำลังซื้อจากทุกพื้นที่

 

จุดชมวิวผาเดียวดาย

     อยู่บนยอดเขาเขียว สามารถขับรถยนต์เข้าไปถึงแต่ถนนไม่ค่อยดีนักเนื่องจากมีหินถล่มบ่อยทำให้ผิวถนนเสียหายเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ถนนยังชันและเป็นโค้งหักศอกอีกด้วย เมื่อขึ้นไปเกือบถึงยอดเขาก็จะมีที่จอดรถให้บริเวณใกล้กับผาเดียวดาย ซึ่งระหว่างทางจะเดินผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติ โดยเส้นทางนี้มีความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณต่างๆ มากมาย ที่น่าสนใจ เช่น ช้องนางคลี หญ้าข้าวกล่ำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีไม้ใหญ่อื่นๆ ซึ่งมักถูกปกคลุมด้วยมอสเป็นสีเขียวแลดูสดชื่น และยังมีไม้หอมพวกกฤษณาอีกด้วย ใช้เวลาเดินผ่านป่าดิบชื้นนี้ประมาณ 15นาที ก็จะถึงจุดชมวิวผาเดียวดาย แลเห็นเขาสมอปูนทางขวามือและทุ่งงูเหลือมอยู่ตรงกลาง หากโชคดี เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาเดียวดายนี้ อาจพบนกหายากบางชนิด เช่น นกเงือก นกปรอดดำ นกแซงแซวหางบ่วง เป็นต้น

จุดชมวิวผาตรอมใจ

      ตั้งอยู่เลยทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติผาเดียวดายไปอีกเล็กน้อย คือเป็นทางเข้าของศูนย์เรดาร์ของกองทัพอากาศ บริเวณนี้จริงๆ แล้วเป็นเขตทหาร แต่ได้จัดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้บริเวณจุดชมวิวผาตรอมใจ เมื่อมองออกไปจะแลเห็นทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา บริเวณนี้ค่อนข้างเงียบสงบเนื่องจากเป็นเขตทหารและอยู่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นอีกทั้งการเดินทางมาก็ค่อนข้างลำบากเพราะไกลและถนนไม่ดี มีคนมาน้อย บรรยากาศเงียบสงบจึงมีนกหลายชนิดให้ศึกษา บางวันจะมีช่างภาพพร้อมกล้องถ่ายรูปและเลนส์ขนาดใหญ่สำหรับถ่ายภาพนกมานั่งเงียบๆ คอยนกมาเกาะบนกิ่งไม้แล้วถ่ายภาพ จริงๆ แล้วข้างในศูนย์เรดาร์ยังมีหน้าผาหินอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีวิวสวยไม่แพ้กัน แต่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชม

 

หอดูสัตว์หนองผักชี

    แต่เดิมนั้นเคยมีชาวบ้านขึ้นมาจับจองพื้นที่อาศัยอยู่บนเขาใหญ่ และถางป่าเพื่อปลูกพืชผักบางอย่าง เช่น ผักชี พริก เป็นต้น โดยอาศัยแหล่งน้ำคือหนองผักชีนี้เพื่อการเกษตรกรรม เมื่อทางการได้สั่งให้อพยพออกจากเขาใหญ่ พื้นที่ที่เคยปลูกพืชก็ถูกทิ้งร้างมีหญ้าขึ้นสูง เป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์กินพืชซึ่งจะลงมากินหญ้าที่บริเวณนี้เป็นประจำ ทางอุทยานแห่งชาติได้สร้างหอดูสัตว์หนองผักชีเพื่อใช้ดูสัตว์ที่ลงมากินหญ้า โดยสัตว์มักลงมากินหญ้าตอนเช้าตรู่และตอนเย็น 

 

 

หอดูสัตว์

     ทางอุทยานแห่งชาติได้สร้างขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้ดูสัตว์ที่ลงมากินดินโป่ง มีทั้งหมด 3 แห่ง  คือ

1. หอดูสัตว์หนองผักชี

2. หอดูสัตว์มอสิงโต

3. หอดูสัตว์คลองปลากั้ง

 

     โดยหอดูสัตว์ทั้งหมดนี้จะสร้างใกล้ๆ โป่ง เนื่องจากสัตว์จะลงมากินดินโป่ง ซึ่งโดยมากที่เห็นจะเป็นกวาง ช้างป่ามีบ้างแต่น้อยกว่า และหากโชคดีอาจมีโอกาสได้เห็นกระทิงลงมากินดินโป่งซึ่งหาชมได้ยากมาก โดยโอกาสเห็นกระทิงนั้นจะพบที่หอดูสัตว์คลองปลากั้งมากที่สุด

 

การเดินทาง 

การเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สามารถเดินทางได้ 2 ทางดังนี้

     1. ขึ้นเขาฝั่งปากช่อง ซึ่งเป็นเส้นทางดั้งเดิม  สร้างตั้งแต่ปี  2505 โดยเดินทางผ่านถนนมิตรภาพ เมื่อถึงช่วงอำเภอปากช่องจะมีทางแยกเข้าถนนธนะรัชต์  จากถนนมิตรภาพเข้ามาตามถนนธนะรัชต์ประมาณ   20กิโลเมตร  ก็จะถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียม ซึ่งใกล้กันนั้นเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ หรือปลัดจ่างผู้ปราบโจรบนเขาใหญ่เมื่อ  80 ปีก่อน  โดยจากด่านเก็บค่าธรรมเนียมนี้ ต้องเดินทางไปอีกประมาณเกือบ  20กิโลเมตรจึงจะถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เส้นทางนี้ค่อนข้างชันเมื่อเทียบกับเส้นใหม่ที่ขึ้นเขาฝั่งปราจีนบุรี สองข้างทางเป็นป่าดิบ มีดงเสือ ดงงูเห่า และดงช้างเป็นต้น ซึ่งนานๆ ครั้ง อาจเห็นสัตว์ออกมาเดินบนถนนใหญ่ โดยเฉพาะลิงซึ่งอาจมีมากเป็นร้อยตัวและมีกีดขวางการจราจร ควรใช้ความระมัดระวังในการขับรถเป็นอย่างมากเนื่องจากมีอุบัติเหตุขับรถชนลิงอยู่บ่อยๆ

 

    2. ขึ้นเขาฝั่งปราจีนบุรี  เป็นทางที่ตัดขึ้นใหม่ในปี  2525 ซึ่งหากเดินทางมาจากกรุงเทพมหานครแล้ว นับว่าสะดวกและใกล้กว่าทางฝั่งปากช่อง อีกทั้งทางขึ้นยังชันน้อยกว่าเล็กน้อย โดยขับรถมาทางถนนรังสิต-นครนายก เมื่อถึงตัวเมืองนครนายกให้เลี้ยวเข้าถนนสุวรรณศร (หมายเลข 33)ไปทางปราจีนบุรี เดินทางมาจนกระทั่งถึงวงเวียนให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนปราจีนบุรี-เขาใหญ่ ซึ่งนับจากวงเวียนนี้ จะห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 40กิโลเมตร แต่หากมาจากทางนี้จะใกล้น้ำตกเหวนรกมากกว่า เส้นทางฝั่งนี้ไม่ค่อยมีสัตว์มากเท่ากับฝั่งปากช่อง แต่มีลิงมากพอๆ กัน ซึ่งควรขับรถด้วยความระมัดระวังเช่นกัน 

   CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)

สิ่งอำนวยความสะดวก

    ที่พัก  มีบ้านพัก บ้านพักเรือนแถว และค่ายพักแรม ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว จำนวน 4 โซน ได้แก่ โซนศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โซนบนเขา-จุดชมวิว โซนค่ายสุรัสวดี และโซนบ้านธนะรัชต์ แต่ละโซนอยู่ห่างกันพอสมควร ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่จองที่พัก-บริการไว้แล้ว ควรติดต่อที่เจ้าหน้าที่งานบ้านพักและบริการของอุทยานแห่งชาติซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อน เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้มอบกุญแจที่พัก แนะนำเส้นทางเข้าที่พัก และคำแนะนำอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก่อนเข้าพัก

    สถานที่กางเต็นท์ มีลานกางเต็นท์ตามจุดต่างๆ และมีเต็นท์ให้เช่า การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง

    ร้านอาหาร  มีบริการร้านอาหาร เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00 - 18.00 น. ในวันจันทร์ - ศุกร์ และเวลา 07.00 - 21.00 น.                                                             ในวันเสาร์ - อาทิตย์ มีจำนวน 5 แห่ง คือ

  1. บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
  2. บริเวณจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้
  3. บริเวณจุดกางเต็นท์ลำตะคลอง
  4. บริเวณน้ำตกเหวสุวัต
  5. บริเวณน้ำตกเหวนรก

 

   ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อยู่ใกล้กับที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีขนาดใหญ่พอที่จะรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งหนึ่งไม่ต่ำกว่า 150 คน บริเวณนี้มีห้องประชุมซึ่งสามารถบรรจุคนได้ถึง 100 คน ใช้สำหรับเป็นที่ประชุมบรรยาย ฉายสไลด์และภาพยนตร์

   ระบบสาธารณูปโภค มีถนนระบบสองทางเชื่อมโยงจากการบริการ ไปยังจุดท่องเที่ยวและนันทนาการต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ความยาวรวมกันกว่า 86 กิโลเมตร มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ตลอด 24 ชั่วโมง

   สุขา  มีสุขาบริการตามจุดบริการนักท่องเที่ยว และบริเวณลานกางเต็นท์

CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)

สอบถามรายละเอียดและจองบ้านพักได้ที่ 

      งานบ้านพักอุทยานแห่งชาติ โทร. 02-562-0760-2 หรือ  www.dnp.go.th ด่านตรวจศาลเจ้าพ่อ (จองบ้านพัก) โทร. 0-4429-7406, 0-4429-7426 และติดต่อที่พักกางเต็นท์บริเวณผากล้วยไม้ โทร. 0-1282-8594 จุดพักลำตะคอง โทร. 0-9285-9470

แผนที่ไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

แผนที่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

 

CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)

ขอขอบคุณ ที่มา : www.th.wikipedia.org   / www.เขาใหญ่.net

BACK

Media

Media credits : khaoyaizone