Shop ''CFF KNIFE CENTER''
เพื่อให้บริการ ลับคมมีด สปามีด ให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นมีดเดินป่า มีดพกใช้งานประจำ หรือแม้กระทั่งมีดครัวที่ใช้งานทุกวันในราคาเป็นกันเอง โดยเฉพาะมีดครัว ราคาเริ่มต้นเพียงเล่มละ 30 บาทเท่านั้น!! และมีดอื่นๆ หากสนใจก็สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดก่อนใช้บริการได้ทุกช่องทาง Line ID : Cffthailand / Facebook : CFFsurvivaloutdoor , CFF Cutlery & Kitchen tools Thailand หรือ โทร. 02-6116251 / Mobile Phone : 095-474-4592
GSI Commuter Java Press :
฿1,250.- (มีสี Green, Blue)
รายละเอียด :
GSI Commuter Java Press :
WThis clever, on-the-go french press forgoes the standard plunging rod commonly found in presses and replaces it with an inner mug that creates a double wall of insulation, while still removing grit.
CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)
|
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก ตำบลห้วยมุ่นอำเภอน้ำปาดจังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลบ่อภาคอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย อุทยานแห่งนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยว ได้แก่น้ำตกภูสอยดาว เป็นน้ำตก 5 ชั้น และการผจญภัยขึ้นสู่ลานสนสามใบอันสวยงาม มีเนื้อที่กว้างประมาณ 1,000ไร่ มีความสวยงามมากมีถนนลาดยางเข้าถึงพื้นที่ทำให้สะดวกสบายในการเดินทาง พักผ่อนหย่อนใจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวมีเนื้อที่ 125,110 ไร่ หรือ 200.18 ตารางกิโลเมตร
ต่อมา ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2536 สำนักงานป่าไม้เขตพิษณุโลก ได้ขอจัดตั้งวนอุทยาน ภูสอยดาวเป็นอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ได้รายงานให้กรมป่าไม้ทราบว่า พื้นที่บนอุทยานภูสอยดาวเป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ จึงเห็นสมควรที่จะรักษาพื้นที่ป่าแห่งนี้ไว้เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และพื้นที่ใกล้เคียงยังมีสภาพป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์ สามารถผนวกเป็นเขตอุทยานแห่งชาติได้อีกเป็นจำนวนมาก โดยกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จนกระทั่งปี 2551 ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนที่ 71 ก ลงวันที่ 28พฤษภาคม พ.ศ. 2551
ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับ ซ้อนตั้งแต่ทิศเหนือจดทิศใต้ เป็นเทือกเขากั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 500-1,800เมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและป่าไม้ประมาณร้อยละ 85ของพื้นที่ทั้งหมด เป็นที่ราบประมาณร้อยละ 15ของพื้นที่ทั้งหมด
เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลำน้ำภาค และลำน้ำปาด มีอากาศเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิสูงเฉลี่ย 35.0องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 13.0องศาเซลเซียส อุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั่วไป 27.0องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,334.4มิลลิเมตร/ปี ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่ เดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
• สภาพป่าในพื้นที่ที่จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีความหลากหลายผสมกันมีความต่างระดับของพื้นที่มากในพื้นที่ประกอบด้วย ป่าสนเขา ป่าดิบเขา ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ
• ส่วนสัตว์ป่ามีอยู่ชุกชุมหลายชนิดที่พบเห็นและปรากฏร่องรอยได้แก่ เลียงผา กวางป่า เสือโคร่ง เก้ง หมี หมูป่า ลิง อีเห็น เม่น กระต่ายป่า ไก่ป่า ไก่ฟ้าพญาลอ นกเขา นกขุนทอง เป็นต้น
การเดินทางมาอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวด้วยรถยนต์สามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ
1. ที่จอดรถ: มีที่จอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
2. บริการอาหาร: มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว เฉพาะทางขึ้นภู
3. ลานกางเต๊นท์: อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมเต็นท์ และสถานที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้ กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง
4. ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว: มีศูนย์ บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.
5. สุขาชาย-หญิง และ ห้องอาบน้ำ : ปัจจุบันนี้บนภูสอยดาว มีห้องสุขา และห้องอาบน้ำไว้บริการแล้ว เป็นห้องน้ำที่ทำง่ายๆ ด้วยกระดานสนที่ได้จากต้นสนที่หักโค่น ห้องสุขา และ ห้องอาบน้ำ ตั้งแยกกัน ห้องสุขาเป็นห้องแถวมีหลายห้อง น้ำที่ใช้จะต้องตักเองจากลำธาร ห้องอาบน้ำเป็นแบบ open air มีผนังมิดชิด น้ำใช้ก็ต้องตักเองจากลำธารครับ
รถโดยสารประจำทาง
การเดินทางด้วยรถโดยสารวิธีที่ 1
• ช่วงที่ 1 จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิต สายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ไปลงที่จังหวัดพิษณุโลก
• ช่วงที่ 2 จากจังหวัดพิษณุโลก เดินทางด้วยรถโดยสารระหว่างอำเภอ ไปอำเภอชาติตระการ ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร
• ช่วงที่ 3 จากอำเภอชาติตระการ เดินทางด้วยรถสองแถว ซึ่งมีวันละ 1 เที่ยว รถออกเดินทางไม่เกิน 09.00 น. ไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร
การเดินทางด้วยรถโดยสารวิธีที่ 2
• ช่วงที่ 1 จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิต สายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ไปลงที่จังหวัดพิษณุโลก
• ช่วงที่ 2 จากจังหวัดพิษณุโลก เดินทางด้วยรถรับจ้างเหมาไป-กลับ ราคาประมาณ 2,600 บาท ไปอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร
หมายเหตุ
หากนักท่องเที่ยวเดินทางไปถึงอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวแล้ว ไม่สามารถขึ้นยอดภูสอยดาวได้ทัน (อุทยานแห่งชาติเปิดให้ขึ้นลานสนภูสอยดาวตั้งแต่เวลา 8.00 - 14.00 น.) ทางอุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการ บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติที่อยู่ด้านล่างไว้แล้ว
CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)
บ้านพัก-บริการ
ท่านสามารถจองที่พักได้ด้วยตนเองผ่านทางอินเตอร์เน็ต www.dnp.go.th ของกรมเท่านั้น (กรมไม่มีตัวแทนการจองที่พักกับภาคเอกชนรายใดทั้งสิ้น) จองล่วงหน้าได้ 60วัน จองต่อเนื่องได้ครั้งละ 3วัน กำหนดชำระเงินภายใน 2วันทำการ ณ เคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศเท่านั้น หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ทำการจองให้ โดยโทรมาที่ 0-2562-0760 หรือติดต่อจุดจองที่พักในส่วนภูมิภาค
กรณีที่ชำระเงินกับทางธนาคาร กรมจะทราบข้อมูลการชำระเงินได้โดยออนไลน์กับทางธนาคาร ก็จะทราบว่ารายการจองใดได้ชำระเงินแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องโทรสารเอกสารแสดงการชำระเงินมาที่กรมอีก โปรดนำหลักฐานการจองและเอกสารการชำระเงิน เฉพาะบมจ.ธนาคารกรุงไทย เท่านั้น ไปยื่นแสดงในวันเข้าพัก และในกรณีที่ชำระเงินกับหน่วยงานในสังกัดกรม ให้นำใบเสร็จรับเงินไปยื่นแสดงในวันเข้าพัก เท่านั้น
โซนที่พัก-บริการ
|
|
||||||||||
โซน |
ชื่อที่พัก-บริการ |
ห้องนอน |
ห้องน้ำ |
คน/หลัง |
ราคา/คืน |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
||||
โซนที่ 1 |
ภูสอยดาว 102 (สอยดาว 2) |
3 |
2 |
6 |
1,000 |
เครื่องนอน (เตียง 3.5 ฟุต), เครื่องทำน้ำอุ่น |
||||
โซนที่ 1 |
ภูสอยดาว 104/1 (สอยดาว 4) |
2 |
1 |
4 |
600 |
เครื่องนอน (เตียง 3.5 ฟุต), เครื่องทำน้ำอุ่น |
||||
โซนที่ 1 |
ภูสอยดาว 104/2 (สอยดาว 4) |
2 |
1 |
4 |
600 |
เครื่องนอน (เตียง 3.5 ฟุต), เครื่องทำน้ำอุ่น |
||||
กรณีที่มีผู้เข้าพักแรมในที่พักเกินจำนวนที่กำหนด ต้องชำระค่าตอบแทนที่พักสำหรับจำนวนที่เกินอีก โดยไม่มีเครื่องนอนหรือของใช้อื่นๆ เพิ่มอีก ดังนี้ ประเภทบ้านพัก ในอัตราคนละ 100บาท/คน/คืน และ ประเภทค่ายพัก ในอัตราคนละ 50บาท/คน/คืน สำหรับการจัดโซนและจำนวนที่พัก-บริการ ที่เปิดให้บริการในอุทยานแห่งชาติมีดังต่อไปนี้
|
แผนที่การเดินทาง
ผังบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)
ขอขอบคุณ ที่มา : http://travel.sanook.com/ , http://www.dnp.go.th/ ,http://1081009.tourismthailand.org/ , http://th.wikipedia.org/wiki/
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า
ความเป็นมา
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด -โป่งก้อนเส้า มีพื้นที่ 13,750ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะปราง มีความอุดมสมบูรณ์ และหลากหลายทางชีวภาพทั้งพันธุ์พืชและสัตว์ป่านานาชนิด มีพื้นที่ติดต่อกับด้านตะวันตกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกอบด้วยป่าหลายชนิด ได้แก่ ป่าดิบแล้ง ป่าดงดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ และทุ่งหญ้า ก่อให้เกิดความหลากหลายของพันธุ์พืช เป็นต้นกำเนิดของน้ำตกต่าง ๆ ในพื้นที่ พันธุ์ไม้ที่พบมีจำพวกพืชสมุนไพร เช่น พญามีฤทธิ์ ม้ากระทืบโรงกราวเครือว่าน รวมทั้งเห็ดชนิดต่าง ๆ เช่น เห็ดแชมเปญ เห็ดปากหมูฯ สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณ ได้แก่ ช้างป่า กระทิง หมี กวาง เก้ง นางอาย อีเห็น กระจง หมูป่า และ นกอีกประมาณ 158ชนิด เช่น โพระดก หัวขวาน กระแตแต้แวด ปรอด ขุนแผน ฯลฯ บินข้ามไปมาระหว่างศูนย์ฯ กับเขาใหญ่
จากที่ทำการมีเส้นทางเดินป่าไปยังน้ำตกต่าง ๆ แบ่งเป็นวงรอบ ได้แก่
นักท่องเที่ยวต้องมีอุปกรณ์พร้อมและมีร่างกายที่แข็งแรง แต่ก็คุ้มค่าเพราะน้ำตกโกรกอีดก โดยเฉพาะชั้นที่ 6 และ 7 เป็นชั้นที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ เส้นทางนี้จุดเริ่มเดินอยู่ที่บ้านตะโกด้าน อยู่ห่างจากศูนย์ประมาณ 20 กิโลเมตร ผู้สนใจเดินเส้นทางนี้ต้องมาถึงศูนย์ก่อน 7 โมงเช้า สามารถค้างคืนได้ ค่าบริการ 400 บาท
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ มีอยู่ด้วยกัน 3 เส้นทางได้แก่
เส้นทางที่ 1 จากจุดชมวิวซึ่งตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการฯ 12กิโลเมตร และสามารถชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกยามเย็นได้ ไปอ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง
เส้นทางที่ 2 จากอ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน ไปน้ำตกหินดาดเป็นน้ำตกชั้นเดียวแต่กว้างบริเวณโดยรอบแวดล้อมไปด้วยพรรณไม้ที่สวยงามมากมาย เช่น กล้วยไม้ ลิ้นมังกร ดอกเทียน เป็นต้น และไปยังน้ำตกคลองผักหนาม กลับมายังอ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน ระยะทาง 4กิโลเมตร ใช้เวลา 4 ชั่วโมง
เส้นทางที่ 3 จากอ่างเก็บน้ำซับป่าว่านไปน้ำตกเจ็ดคดเหนือ เจ็ดคดกลาง เจ็ดคดใต้ กลับมายังอ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน ระยะทาง 4กิโลเมตร ใช้เวลา 4ชั่วโมง
น้ำตกอื่น ๆ ที่พบในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงมีความงามแตกต่างกันไป น้ำตกที่สำคัญ ได้แก่ น้ำตกเขาแคบ เป็นน้ำตก 7 ชั้น สูง 30 เมตร สวยงามมาก ช่องที่น้ำตกลงมาเป็นช่องแคบ น้ำจึงทิ้งตัวลงมาเป็นสาย และกระแทกก้อนหินเบื้องล่าง แตกกระจายเป็นฝอย อ่างน้ำตกใหญ่และลึกเห็นน้ำเป็นสีเขียวมรกต น้ำตกโกรกฝาผนัง อยู่ใกล้ ๆ กับน้ำตกโกรกอีดก มีความสูงประมาณ 20เมตร มีลักษณะเป็นหน้าผาชันเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความโลดโผน น้ำตกซับป่าว่าน เป็นน้ำตกที่ไม่สูงนัก ต้นน้ำเกิดจากอ่างเก็บน้ำของโครงการฯ เหมาะที่จะเดินท่องเที่ยวในช่วงฝนตก หรือช่วงที่มีน้ำมาก เพราะบริเวณเส้นทางของน้ำตกปลอดภัยจากน้ำป่าและเป็นทางราบเดินสบาย แต่ละชั้นของน้ำตกมีลานกว้างให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากกิจกรรมเดินป่าแล้วทางศูนย์ยังจัดกิจกรรมส่องสัตว์เป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร
ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก
มีบ้านพักจำนวน 21 หลัง มีเต็นท์ให้เช่า ราคา 200-300 บาท/คน/คืน และถุงนอนราคา 50 บาท/คน/คืน นักท่องเที่ยวต้องเตรียมเสบียงมาเอง แต่ห้ามก่อไฟในบริเวณ อนุญาตให้ใช้เตาปิกนิก หรือเตาถ่านได้
บ้านพักรับรอง ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า มีบ้านพักไว้บริการให้กับนักท่องเที่ยว 3 แบบ ดังนี้ั
บ้านพัดลม พักได้ไม่เกิน 6 คนต่อหลัง มีจำนวน 6 หลัง
บ้านเดี่ยวแอร์ พักได้ไม่เกิน 5 คนต่อหลัง มีจำนวน 9 หลัง
บ้าน 4 ยูนิต (แอร์) พักได้ห้องล่ะไม่เกิน 3 คน มีจำนวน 24 ห้อง
การเดินทาง
จากตัวเมืองสระบุรี ไปตามทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ทางเข้าศูนย์จะอยู่ฝั่งขวามือ ตรงข้ามกับบริษัท Furukawa จำกัด เข้าไปประมาณ 17 กิโลเมตร มีป้ายบอกทางชัดเจน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า หมู่ที่ 5 ตำบลท่ามะปราง อำเภอแก่งคอย อำเภอสระบุรี โทร. 08 5968 3520, 08 9237 8659
แผนที่ไปศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคต - โป่งก้อนเส้า
แผนที่ เส้นทางเดินป่า และเส้นทางปั่นจักรยาน
ขอขอบคุณ ที่มา : http://www.folktravel.com , http://saraburi.dnp.go.th
CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 4 จังหวัด 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมวกเหล็กอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา อำเภอนาดีอำเภอกบินทร์บุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี และอำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2505 และได้รับสมญานามว่า เป็น "อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน“ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีเนื้อที่ปกคลุม 2,168 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบแล้ง ป่าดงดิบชื้น ป่าดิบเขา ทุ่งหญ้า และป่ารุ่นหรือป่าเหล่า ป่าดงดิบชื้น ลักษณะป่าชนิดนี้ เป็นป่าที่อยู่ในระดับความสูง 400 - 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล พืชพรรณมี 3,000 ชนิด,นกมี 250 ชนิดและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 67 ชนิด ซึ่งได้แก่ ช้าง เสือ ชะนี กวาง และหมูป่า พบอยู่ตามทุ่งหญ้ากว้างทั่วๆ ไป
ประวัติ
ในสมัยก่อน การเดินทางติดต่อระหว่างภาคกลางกับภาคอีสานนั้น มีอุปสรรคคือจะต้องผ่านป่าดงดิบขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายมากมายทั้งสัตว์ร้ายและไข้ป่า ผู้คนที่เดินทางผ่านป่านี้ล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงได้ขนานนามว่า ดงพญาไฟ ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จผ่านในคราวเปิดทางรถไฟสาย กรุงเทพ - นครราชสีมา ทรงเห็นว่าชื่อดงพญาไฟนี้ ฟังดูน่ากลัว จึงโปรดให้เปลี่ยนชื่อเป็นดงพญาเย็นตั้งแต่นั้นเป็นมา
เมื่อมีการสร้างทางรถไฟ ชาวบ้านก็ได้เข้ามาจับจองพื้นที่กัน โดยเฉพาะบนยอดเขา โดยถางป่าเพื่อทำไร่ และในปี 2465 ได้ขอจัดตั้งเป็นตำบลเขาใหญ่ แต่ด้วยการที่จะเดินทางมายังยอดเขานี้ค่อนข้างลำบากห่างไกลจากการปกครองของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ตำบลเขาใหญ่จึงเป็นแหล่งซ่องสุมของโจรผู้ร้าย จนกระทั่งปี 2475 ทางราชการได้ส่งปลัดจ่างมาปราบโจรผู้ร้ายจนหมด แต่สุดท้ายปลัดจ่างก็เสียชีวิตด้วยไข้ป่า ได้ตั้งเป็นศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นที่เคารพนับถือจนปัจจุบันนี้ หลังจากปราบโจรผู้ร้ายหมดลงแล้ว ทางราชการเห็นว่าตำบลเขาใหญ่นี้ยากแก่การปกครอง อีกทั้งปล่อยไว้จะเป็นแหล่งซ่องสุมโจรผู้ร้ายอีก จึงได้ยุบตำบลเขาใหญ่ และให้ผู้คนที่อาศัยอยู่บนเขาทั้งหมดย้ายลงมาอาศัยอยู่ข้างล่าง ป่าที่ถูกถางเพื่อทำไร่นั้นปัจจุบันคือยังมีร่องรอยให้เห็นเป็นทุ่งหญ้าโล่งๆ บนเขาใหญ่นั่นเอง
ปี 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เล็งเห็นว่าบริเวณเขาใหญ่นี้ มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งมีความสวยงาม เหมาะใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่มีปัญหาคือมีการตัดไม้ทำลายป่า จึงได้ให้มีการสำรวจพื้นที่บริเวณตำบลเขาใหญ่เดิมและบริเวณโดยรอบและได้ตราพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติขึ้น ตั้งเขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติในปี 2505 โดยเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย และได้ตัดถนนธนะรัชต์แยกออกมาจากถนนมิตรภาพมายังตัวเขาใหญ่ โดยถนนนี้ขึ้นมาบนเขาใหญ่แล้วจะแยกเป็นสองสาย คือไปสิ้นสุดที่น้ำตกเหวสุวัตสายหนึ่ง และไปสิ้นสุดที่เขาเขียวอีกสายหนึ่ง ซึ่งก่อนปี 2525 ถนนธนะรัชต์นี้เป็นเพียงถนนสายเดียวที่จะมายังเขาใหญ่ได้
ในปี 2523 ได้มีการตัดถนนสายปราจีนบุรี - เขาใหญ่ โดยถนนนี้เปิดใช้งานในปี 2525 ทำให้สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น และเดินทางจากกรุงเทพมหานครใช้ระยะทางสั้นกว่า อีกทั้งเส้นทางยังชันและมีโค้งหักศอกน้อยกว่าถนนธนะรัชต์เดิม อีกทั้งยังทำให้การท่องเที่ยวในส่วนใต้ของอุทยานสะดวกขึ้น เช่น สามารถเดินทางมายังน้ำตกเหวนรกได้โดยตรง ซึ่งแต่เดิมจะต้องเดินเท้าเข้ามาจากอำเภอปากพลีแล้วเลาะมาตามหน้าผา แต่การตัดถนนใหม่สามารถนำรถยนต์เข้าไปจอดแล้วเดินเท้าประมาณ 1 กิโลเมตรก็ถึงน้ำตกเหวนรกได้แล้ว เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทับลาน ปางสีดา ตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ได้รับการประกาศให้เป็น "มรดกโลกทางธรรมชาติ" จากองค์การยูเนสโก ภายใต้ชื่อกลุ่ม “ดงพญาเย็น-เขาใหญ่”
สถานที่ท่องเที่ยวเขาใหญ่
เขาใหญ่ หรือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สัตว์ป่าที่สามารถพบได้บ่อยๆ ได้แก่ เก้ง กวาง ตามทุ่งหญ้าทั่วไป นอกจากนี้ยังมี เสือโคร่ง กระทิง เลียงผา หมี เม่น ชะนี พญากระรอก หมาไม้ ชะมด อีเห็น กระต่ายป่า นกชนิดต่างๆ จำนวน 250ชนิด จากจำนวนไม่น้อยกว่า 340ชนิด ที่สำรวจพบอาศัยอยู่บริเวณป่าเขาใหญ่ซึ่งเป็นแหล่งหาอาหารและที่อาศัยอย่างถาวร นกที่น่าสนใจและพบเห็นได้บ่อย ได้แก่ นกเงือก นกขุนทอง นกขุนแผน นกพญาไฟ นกแต้วแล้ว นกโพระดก นกแซงแซว นกเขา นกกระปูด ไก่ฟ้า และนกกินแมลงชนิดต่างๆ นกเงือกทั้ง 4ชนิด ซึ่งได้แก่ นกกก นกเงือกกรามช้าง นกแก๊ก และนกเงือกสีน้ำตาล ที่พบบนเขาใหญ่นับว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักดูนกเป็นอย่างดี เพราะพบเห็นได้ทั่วไป พวกแมลงที่มีมากกว่า 5,000ชนิด ที่สวยงามและพบเห็นบ่อยได้แก่ ผีเสื้อ มีรายงานพบกว่า 216 ชนิด
แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวเขาใหญ่
|
|
น้ำตกเหวนรก
เป็นน้ำตกที่เกิดจากคลองท่าด่าน น้ำตกเหวนรกเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นน้ำตกที่มีความสูงและสวยงามมากแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่เดิมก่อนที่จะมีการตัดถนนสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่นั้น จะต้องเดินเท้าเข้ามาโดยใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6ชั่วโมง แต่หลังจากตัดถนนสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่เสร็จแล้ว ถนนตัดผ่านใกล้น้ำตกเหวนรกมาก โดยมีลานจอดรถห่างจากตัวน้ำตกเพียง 1กิโลเมตรเท่านั้น ระหว่างทางสามารถเดินชมธรรมชาติอันสวยงามสองข้างทางได้ เมื่อถึงตัวน้ำตกจะมีบันไดลงไปอีกราว 50เมตร ซึ่งค่อนข้างแคบและชัน แต่เมื่อลงไปถึงจุดชมวิวก็จะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกได้อย่างสวยงาม หากไปในฤดูฝนมีน้ำมาก ละอองน้ำจะกระเซ็นต้องกับแสงอาทิตย์เป็นสายรุ้งอย่างงดงาม แต่หากมาชมในหน้าแล้งนั้นอาจต้องผิดหวังเพราะไม่มีน้ำ เห็นแต่เพียงหน้าผาแห้งๆ เท่านั้น
ระหว่างทางเดินมายังน้ำตกเหวนรกนี้ จะสังเกตเห็นแนวคันปูนเป็นระยะ สร้างขึ้นเพื่อป้องกันช้างพลัดตกไปยังน้ำตก ตั้งแต่ในปี 2530 จะมีช้างตกลงไปยังผาข้างล่างปีละเชือกหรือสองเชือกเสมอ และในครั้งใหญ่ที่สุดปี 2535 มีช้างโขลงหนึ่งจำนวน 8เชือกหลงเข้ามาและถูกกระแสน้ำพัดตกลงไปตายหมด ทางอุทยานแห่งชาติจึงได้สร้างแนวป้องกันนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันอันตรายแก่ช้างป่ามิให้เกิดขึ้นอีก
ในความเป็นจริงแล้ว น้ำตกเหวนรกนั้นมีอยู่ 2 ชั้น ที่ได้ชมนี้เป็นชั้นที่ 1 โดยมีความสูงของตัวน้ำตกประมาณ 50 เมตร ส่วนชั้นที่ 2 และ 3 นั้นอยู่ห่างออกไป ซึ่งชั้นที่สองนี้มีความสูงมากกว่าชั้นแรกเสียอีก ในความเป็นจริงแล้วมีเส้นทางสำรวจป่าของทางอุทยาน เพื่อไปยังผาอีกด้านหนึ่ง เพื่อชมทัศนียภาพของน้ำตกชั้นที่สอง และสามแต่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมโดยทั่วไปเนื่องจากเป็นทางเข้าไปในป่าดิบ มีสัตว์ป่าออกหากินตลอด หากต้องการเข้าชมควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานนำทางเข้าไปเพื่อความปลอดภัย และหากต้องการชมทัศนียภาพของน้ำตกชั้นที่ 2 และ 3ให้สวยงามที่สุด ควรเดินทางมาชมในช่วงกันยายนหรือตุลาคม เนื่องจากจะมีน้ำมาก ตกลงมาเป็นละออง และหากมาชมในช่วงเวลา 10นาฬิกา จะเป็นเวลาพอเหมาะที่แสงอาทิตย์ตกกระทบกับละอองน้ำตกเกิดเป็นสายรุ้ง โดยรวมความสูงของน้ำตกชั้นที่ 2 และ 3 นี้ประมาณ 150 เมตร
น้ำตกผากล้วยไม้
เกิดจากห้วยลำตะคอง การเดินทางมาจะต้องจอดรถที่ลานกางเต๊นท์ผากล้วยไม้ แล้วเดินเท้าเลาะไปตามห้วยลำตะคอง ผ่านป่าดงดิบตลอดทางหากโชคดีอาจพบนกบางชนิด เช่น นกกางเขนหลังเทา เมื่อเดินเข้ามาประมาณ 1.2 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกผากล้วยไม้ มีป้ายเขียนเอาไว้ชัดเจน น้ำตกผากล้วยไม้นั้นลักษณะเป็นผาไม่สูงนัก ชื่อน้ำตกผากล้วยไม้นี้มาจากมีกล้วยไม้หลายชนิดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกล้วยไม้หวายแดง ซึ่งจะออกดอกช่วงเดินเมษายน ปกติแล้วนักท่องเที่ยวจะนิยมชมน้ำตกบริเวณด้านนอกเท่านั้น แต่หากเดินเลาะไปตามโขดหินอีกประมาณ 10 เมตร ก็จะพบน้ำตกชั้นใน ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้กัน และหากเดินเลาะมาตามห้วยลำตะคองเรื่อยๆ ก็จะมาทะลุถึงน้ำตกเหวสุวัตได้
น้ำตกเหวสุวัต
เป็นน้ำตกอีกแห่งที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยเกิดจากห้วยลำตะคองไหลตกผ่านหน้าผาสูงราว 25เมตร และมีแอ่งน้ำทางด้านล่างเหมาะแก่การเล่นน้ำเป็นอย่างมาก แต่ทางอุทยานแห่งชาติได้มีป้ายประกาศว่าห้ามเล่นน้ำไว้เนื่องจากกลัวอันตรายว่าจะมีน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน ในฤดูฝนสายน้ำที่ตกลงมาจะเป็นละอองกระจายเต็มไปหมด ทำให้รู้สึกสดชื่นเย็นสบาย แต่หากมาในฤดูน้ำน้อย จะสามารถเดินลัดเลาะเพื่อเข้าไปยังโพรงถ้ำเล็กๆ ใต้หน้าผาน้ำตกได้
บางคนกล่าวไว้ว่า ชื่อน้ำตกเหวสุวัตนี้ เกิดจากมีโจรชื่อสุวัต หนีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาจนมุมยังน้ำตกแห่งนี้ เลยตัดสินใจกระโดดลงมายังแอ่งน้ำเบื้องล่าง แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรยืนยัน เป็นเพียงเรื่องเล่าต่อๆ กันมาเท่านั้น
สำหรับห้วยลำตะคองนี้ หลังจากผ่านน้ำตกเหวสุวัตแล้ว ยังมีน้ำตกเหวไทรและน้ำตกเหวประทุนที่อยู่ลึกเข้าไปอีก แต่จะต้องเดินผ่านป่าลึกฝ่าดงทากเข้าไป ควรมีเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วยเนื่องจากในป่าลึกนั้นเส้นทางไม่ชัดเจน อาจพลัดหลงได้ง่าย
น้ำตกกรองแก้ว
เป็นน้ำตกตื้นๆ เกิดจากห้วยลำตะคอง ในฤดูฝนจะดูสวยงามมากเหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ใกล้บริเวณน้ำตกจะมีสะพานแขวนข้ามลำห้วยถึง 2 สะพาน ห้วยลำตะคองเป็นแนวแบ่งเขต 2 จังหวัดคือ นครนายกและนครราชสีมา อยู่ห่างที่ทำการเพียง 100 เมตร
น้ำตกเหวประทุน
น้ำตกเหวประทุน อยู่ห่างจาก น้ำตกเหวไทร 2 กม. สามารถเดินทางจาก น้ำตกเหวสุวัต หรือเดินจากบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ก็ได้ ระยะทางประมาณ 8กม. ตามเส้นทางสายกองแก้ว-เหวสุวัต
น้ำตกเหวไทร
เป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใต้ถัดไปจากน้ำตกเหวสุวัต ห่างจากน้ำตกเหวสุวัตประมาณ 700เมตร น้ำตกนี้มีลักษณะเป็นหน้าผากว้างเต็มลำห้วย สูงประมาณ 5 เมตร ในฤดูฝนน้ำตกนี้จะไหลแรงเต็มหน้าผาสวยงามน่าชมมาก การเดินทางไปน้ำตกเหวไทรไปได้ 2เส้นทาง คือเดินต่อไปจากเหวสุวัตระยะทางประมาณ 700เมตร หรือจะเดินไปจากที่ทำการอุทยานฯไปตามเส้นทางเดินเท้าสายกองแก้ว-เหวสุวัตก็ได้ ระยะทางประมาณ 11กิโลเมตร ตามสองข้างทางเดินที่ผ่านไป จะมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างอื่นมากมาย เช่น สมุนไพร และเห็ดป่า เป็นต้น
ส่องสัตว์เขาใหญ่
ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะมีกิจกรรมนึงที่น่าสนใจก็คือ "ส่องสัตว์" ก็คือต้องติดต่อเช่ารถจากเจ้าหน้าที่เป็นรถกระบะพร้อมไกด์ ที่ถือไฟฉายแรงสูง ขับวนไปมาแถวย่านที่พักและที่ทำการอุทยานที่กลางคืนจะมีกวางป่า และเก้งออกมาเป็นจำนวนมาก คืนไหนโชคดีก็อาจได้เห็นช้าง สามารถติดต่อขออนุญาตได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ หรือที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ก่อนเวลา 18.00 น. ทุกวัน คันละ 500 บาท มีสองรอบ รอบ 1 ทุ่ม และรอบ 2 ทุ่ม
อ่างเก็บน้ำสายศร
เป็นอ่างเก็บน้ำสำหรับใช้อุปโภคบริโภคภายในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเพื่อเป็นแหล่งน้ำของสัตว์ป่า ดำเนินการสร้างโดยนายบุญเรือง สายศร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่คนแรกเมื่อปี 2524 โดยในช่วงที่สร้างนี้ นายบุญเรืองได้กลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานในวาระที่ 2 แต่เดิมเรียกกันว่าอ่างเก็บน้ำมอสิงโต โดยเรียกตามชื่อของเขามอสิงโตที่อยู่บริเวณหน้าอ่างเก็บน้ำซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับสิงโต แต่ต่อมาในปี 2550 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นอ่างเก็บน้ำสายศรเพื่อเป็นเกียรติแก่นายบุญเรือง สายศร อดีตหัวหน้าอุทยานเขาใหญ่คนแรก ผู้ซึ่งมีส่วนบุกเบิกในการจัดตั้งอุทยาน และไม่ให้ผู้คนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีสิงโตอาศัยอยู่
พรีโมพอสโต เขาใหญ่
พรีโมพอสโต ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนชุมชนเขาใหญ่ Primo Posto เป็นภาษาอิตาเลี่ยน ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษ หมายถึง The First Place ด้วยความตั้งใจของเจ้าต้องการสร้างให้เป็นแหล่งสรรพสิ่งในบรรยากาศแบบอิตาลีที่แห่งแรก สำหรับนักท่องเที่ยวทีเดินทางมาเขาใหญ่ ท่ามกลางธรรมชาติ บนพื้นที่ 50 ไร่ โดยจำลองบรรยากาศและไลฟ์สไตล์ที่คล้ายคลึงกับแคว้นทัลคานีของอิตาลี ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งศิลปะ สถาปัตยกรรม ในยุคเรเนซองส์ และลายล้อมด้วยพื้นที่ที่เขียวชอุ่มท่ามบรรยากาศแห่งขุนเขาชมสดใสสวยงามของไร่องุ่น ให้ความรู้สึกแก่นักท่องเที่ยวเหมือนได้มาเยือนชนบทของอิตาลี พร้อมทั้งพลาซ่าเล็กๆ ในมุมพักผ่อนอันประกอบด้วย ร้านกาแฟอิตาเลี่ยนสไตล์ (Café Momus) ร้านไวน์ (Divino) ที่ให้ความความรู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางไร่องุ่น ร้านอาหาร โดยร้านอาหารจะเป็นสไตล์แบบ Home made หรือที่เรียกกันในอิตาลีว่า Trattoria และที่ขาดไม่ได้คือ ร้านไอศกรีม (Dolce Vita) ร้านขายของที่ระลึก แกลเลอรี่ นอกจากนั้นเรายังมีสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมจัดงานต่างๆ เพื่อให้เป็นที่พบปะสังสรรค์ ที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว และสามารถมาจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ ได้ เช่น งานแต่งงาน งานวันเกิด จัดงาน Event เปิดตัวสินค้าต่างๆ การฉายหนังกลางแปลงในสวน คอนเสิร์ตในสวน เป็นต้น
ปาลิโอ เขาใหญ่
ปาลิโอ เขาใหญ่ ไม่น่าเชื่อนะคะว่า ที่เขาใหญ่ จ. นครราชสีมา จะมีสถานที่แบบนี้ด้วย ตามความรู้สึกผู้ที่เคยไปมา บอกว่า ที่ปาลิโอ เขาใหญ่นี้คล้ายๆ กับ สยามเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ ค่ะ เป็นแหล่งสำหรับขาช็อป แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียวนะคะ เพราะที่นี่เค้าตกแต่งเป็นสไตล์อิตาลี ..ยุโรปโบราณแนวนี้ค่ะ ..น่าลองไปเที่ยวที่นี่ดูนะคะ!!
ปาลิโอ เขาใหญ่ New walking street shopping center อาณาจักรใหม่ของชีวิตคนเขาใหญ่ เดินทางสะดวก สู่ศูนย์กลางความทันสมัยของคนเมือง ค้นพบจินตนาการแห่งความสุขที่ไม่สิ้นสุดได้ด้วยตัวคุณ แรงบันดาลใจเกิดขึ้นทุกวินาทีที่ Khaoyai Village Mall สัมผัสสุนทรีย์แห่งความบันเทิงได้ครบทุกความต้องการ คุ้มค่าแก่การลงทุนทำเลทองของนักลงทุนผู้มองการณ์ไกล ครบทุกความพร้อมที่จะทำให้การลงทุนของคุณคุ้มค่าดั่งใจต้องการ รองรับทุกกำลังซื้อจากทุกพื้นที่
จุดชมวิวผาเดียวดาย
อยู่บนยอดเขาเขียว สามารถขับรถยนต์เข้าไปถึงแต่ถนนไม่ค่อยดีนักเนื่องจากมีหินถล่มบ่อยทำให้ผิวถนนเสียหายเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ถนนยังชันและเป็นโค้งหักศอกอีกด้วย เมื่อขึ้นไปเกือบถึงยอดเขาก็จะมีที่จอดรถให้บริเวณใกล้กับผาเดียวดาย ซึ่งระหว่างทางจะเดินผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติ โดยเส้นทางนี้มีความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณต่างๆ มากมาย ที่น่าสนใจ เช่น ช้องนางคลี หญ้าข้าวกล่ำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีไม้ใหญ่อื่นๆ ซึ่งมักถูกปกคลุมด้วยมอสเป็นสีเขียวแลดูสดชื่น และยังมีไม้หอมพวกกฤษณาอีกด้วย ใช้เวลาเดินผ่านป่าดิบชื้นนี้ประมาณ 15นาที ก็จะถึงจุดชมวิวผาเดียวดาย แลเห็นเขาสมอปูนทางขวามือและทุ่งงูเหลือมอยู่ตรงกลาง หากโชคดี เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาเดียวดายนี้ อาจพบนกหายากบางชนิด เช่น นกเงือก นกปรอดดำ นกแซงแซวหางบ่วง เป็นต้น
จุดชมวิวผาตรอมใจ
ตั้งอยู่เลยทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติผาเดียวดายไปอีกเล็กน้อย คือเป็นทางเข้าของศูนย์เรดาร์ของกองทัพอากาศ บริเวณนี้จริงๆ แล้วเป็นเขตทหาร แต่ได้จัดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้บริเวณจุดชมวิวผาตรอมใจ เมื่อมองออกไปจะแลเห็นทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา บริเวณนี้ค่อนข้างเงียบสงบเนื่องจากเป็นเขตทหารและอยู่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นอีกทั้งการเดินทางมาก็ค่อนข้างลำบากเพราะไกลและถนนไม่ดี มีคนมาน้อย บรรยากาศเงียบสงบจึงมีนกหลายชนิดให้ศึกษา บางวันจะมีช่างภาพพร้อมกล้องถ่ายรูปและเลนส์ขนาดใหญ่สำหรับถ่ายภาพนกมานั่งเงียบๆ คอยนกมาเกาะบนกิ่งไม้แล้วถ่ายภาพ จริงๆ แล้วข้างในศูนย์เรดาร์ยังมีหน้าผาหินอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีวิวสวยไม่แพ้กัน แต่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชม
หอดูสัตว์หนองผักชี
แต่เดิมนั้นเคยมีชาวบ้านขึ้นมาจับจองพื้นที่อาศัยอยู่บนเขาใหญ่ และถางป่าเพื่อปลูกพืชผักบางอย่าง เช่น ผักชี พริก เป็นต้น โดยอาศัยแหล่งน้ำคือหนองผักชีนี้เพื่อการเกษตรกรรม เมื่อทางการได้สั่งให้อพยพออกจากเขาใหญ่ พื้นที่ที่เคยปลูกพืชก็ถูกทิ้งร้างมีหญ้าขึ้นสูง เป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์กินพืชซึ่งจะลงมากินหญ้าที่บริเวณนี้เป็นประจำ ทางอุทยานแห่งชาติได้สร้างหอดูสัตว์หนองผักชีเพื่อใช้ดูสัตว์ที่ลงมากินหญ้า โดยสัตว์มักลงมากินหญ้าตอนเช้าตรู่และตอนเย็น
หอดูสัตว์
ทางอุทยานแห่งชาติได้สร้างขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้ดูสัตว์ที่ลงมากินดินโป่ง มีทั้งหมด 3 แห่ง คือ
1. หอดูสัตว์หนองผักชี
2. หอดูสัตว์มอสิงโต
3. หอดูสัตว์คลองปลากั้ง
โดยหอดูสัตว์ทั้งหมดนี้จะสร้างใกล้ๆ โป่ง เนื่องจากสัตว์จะลงมากินดินโป่ง ซึ่งโดยมากที่เห็นจะเป็นกวาง ช้างป่ามีบ้างแต่น้อยกว่า และหากโชคดีอาจมีโอกาสได้เห็นกระทิงลงมากินดินโป่งซึ่งหาชมได้ยากมาก โดยโอกาสเห็นกระทิงนั้นจะพบที่หอดูสัตว์คลองปลากั้งมากที่สุด
การเดินทาง
การเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สามารถเดินทางได้ 2 ทางดังนี้
1. ขึ้นเขาฝั่งปากช่อง ซึ่งเป็นเส้นทางดั้งเดิม สร้างตั้งแต่ปี 2505 โดยเดินทางผ่านถนนมิตรภาพ เมื่อถึงช่วงอำเภอปากช่องจะมีทางแยกเข้าถนนธนะรัชต์ จากถนนมิตรภาพเข้ามาตามถนนธนะรัชต์ประมาณ 20กิโลเมตร ก็จะถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียม ซึ่งใกล้กันนั้นเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ หรือปลัดจ่างผู้ปราบโจรบนเขาใหญ่เมื่อ 80 ปีก่อน โดยจากด่านเก็บค่าธรรมเนียมนี้ ต้องเดินทางไปอีกประมาณเกือบ 20กิโลเมตรจึงจะถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เส้นทางนี้ค่อนข้างชันเมื่อเทียบกับเส้นใหม่ที่ขึ้นเขาฝั่งปราจีนบุรี สองข้างทางเป็นป่าดิบ มีดงเสือ ดงงูเห่า และดงช้างเป็นต้น ซึ่งนานๆ ครั้ง อาจเห็นสัตว์ออกมาเดินบนถนนใหญ่ โดยเฉพาะลิงซึ่งอาจมีมากเป็นร้อยตัวและมีกีดขวางการจราจร ควรใช้ความระมัดระวังในการขับรถเป็นอย่างมากเนื่องจากมีอุบัติเหตุขับรถชนลิงอยู่บ่อยๆ
2. ขึ้นเขาฝั่งปราจีนบุรี เป็นทางที่ตัดขึ้นใหม่ในปี 2525 ซึ่งหากเดินทางมาจากกรุงเทพมหานครแล้ว นับว่าสะดวกและใกล้กว่าทางฝั่งปากช่อง อีกทั้งทางขึ้นยังชันน้อยกว่าเล็กน้อย โดยขับรถมาทางถนนรังสิต-นครนายก เมื่อถึงตัวเมืองนครนายกให้เลี้ยวเข้าถนนสุวรรณศร (หมายเลข 33)ไปทางปราจีนบุรี เดินทางมาจนกระทั่งถึงวงเวียนให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนปราจีนบุรี-เขาใหญ่ ซึ่งนับจากวงเวียนนี้ จะห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 40กิโลเมตร แต่หากมาจากทางนี้จะใกล้น้ำตกเหวนรกมากกว่า เส้นทางฝั่งนี้ไม่ค่อยมีสัตว์มากเท่ากับฝั่งปากช่อง แต่มีลิงมากพอๆ กัน ซึ่งควรขับรถด้วยความระมัดระวังเช่นกัน
CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)
สิ่งอำนวยความสะดวก
ที่พัก มีบ้านพัก บ้านพักเรือนแถว และค่ายพักแรม ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว จำนวน 4 โซน ได้แก่ โซนศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โซนบนเขา-จุดชมวิว โซนค่ายสุรัสวดี และโซนบ้านธนะรัชต์ แต่ละโซนอยู่ห่างกันพอสมควร ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่จองที่พัก-บริการไว้แล้ว ควรติดต่อที่เจ้าหน้าที่งานบ้านพักและบริการของอุทยานแห่งชาติซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อน เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้มอบกุญแจที่พัก แนะนำเส้นทางเข้าที่พัก และคำแนะนำอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก่อนเข้าพัก
สถานที่กางเต็นท์ มีลานกางเต็นท์ตามจุดต่างๆ และมีเต็นท์ให้เช่า การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง
ร้านอาหาร มีบริการร้านอาหาร เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00 - 18.00 น. ในวันจันทร์ - ศุกร์ และเวลา 07.00 - 21.00 น. ในวันเสาร์ - อาทิตย์ มีจำนวน 5 แห่ง คือ
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อยู่ใกล้กับที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีขนาดใหญ่พอที่จะรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งหนึ่งไม่ต่ำกว่า 150 คน บริเวณนี้มีห้องประชุมซึ่งสามารถบรรจุคนได้ถึง 100 คน ใช้สำหรับเป็นที่ประชุมบรรยาย ฉายสไลด์และภาพยนตร์
ระบบสาธารณูปโภค มีถนนระบบสองทางเชื่อมโยงจากการบริการ ไปยังจุดท่องเที่ยวและนันทนาการต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ความยาวรวมกันกว่า 86 กิโลเมตร มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ตลอด 24 ชั่วโมง
สุขา มีสุขาบริการตามจุดบริการนักท่องเที่ยว และบริเวณลานกางเต็นท์
CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)
สอบถามรายละเอียดและจองบ้านพักได้ที่
งานบ้านพักอุทยานแห่งชาติ โทร. 02-562-0760-2 หรือ www.dnp.go.th ด่านตรวจศาลเจ้าพ่อ (จองบ้านพัก) โทร. 0-4429-7406, 0-4429-7426 และติดต่อที่พักกางเต็นท์บริเวณผากล้วยไม้ โทร. 0-1282-8594 จุดพักลำตะคอง โทร. 0-9285-9470
แผนที่ไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
แผนที่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)
ขอขอบคุณ ที่มา : www.th.wikipedia.org / www.เขาใหญ่.net
CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติ ห้วยน้ำดัง เชียงใหม่
(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ได้ประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเชียงดาว และป่าแม่แตงในท้องที่ตำบลเปียงหลวง ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง ตำบลกืดช้าง ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และป่าแม่ปายฝั่งซ้ายตอนบนในท้องที่ตำบลเวียงเหนือ ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนที่ 33ก ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2538 มีเนื้อที่ประมาณ 782,575 ไร่ หรือ 1,252.12 ตารางกิโลเมตร นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 80 ของประเทศ
สภาพภูมิประเทศ เป็นเทือกเขาและภูเขาสูงที่สลับซับซ้อนทอดตัวยาวตามแนวเหนือ ใต้และอยู่ในแนวเดียวกันกับเทือกเขาเชียงดาว ภูเขาต่าง ๆ ในพื้นที่ที่มีความสูงชันตั้งแต่ 500-1,962 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีภูเขาที่สูงที่สุดคือ ดอยช้าง เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย ได้แก่ ห้วยแม่เย็น ห้วยแม่ฮี้ ห้วยแม่ปิง ห้วยแม่จอกหลวง ห้วยน้ำดัง เป็นต้น รวมกันไหลลงสู่แม่น้ำปาย แม่น้ำปิง แม่น้ำแตง
ลักษณะภูมิอากาศ ฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม - เดือนตุลาคม / ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์ จะมีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 9°c / ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม - เดือนเมษายน จะมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 34°c
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า สภาพทางธรรมชาติยังคงความอุดมสมบูรณ์จึงทำให้เกิดสังคมพืชหลากหลายชนิดประกอบด้วยป่าดิบชื้นป่าดิบเขาป่าเบญจพรรณป่าสนเขามีพรรณไม้ที่สำคัญได้แก่ไม้ตะเคียนยางจำปีป่ายมหอมมะม่วงป่ายมป่าเสลาดงดำแดงประดู่ตะแบกตีนนกงิ้วป่าสนสองใบไม้ก่อต่างๆ เต็งรังเป็นต้น ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสภาพป่าจึงชุกชุมไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิดได้แก่ช้างป่ากวางหมีเก้งเลียงผาหมูป่าเสือชะมดลิงพังพอนเม่นไก่ป่าไก่ฟ้าและนกนานาชนิดได้แก่นกเปล้านกแก้วนกขุนทองนกขมิ้นนกปรอทและนกเหยี่ยวเป็นต้น
จุดชมวิวดอยกิ่วลม จุดชมวิวที่สวยที่สุดของอุทยานฯ มองเห็นยอดเขาได้ถึง 9 ยอดทั้งดอยช้าง ดอยแม่สลา ดอยเลาวู ดอยแม่งุม ดอยขุนคอง ดอยปี ดอยแม่มือ ดอยเมืองคอง และดอยหลวงเชียงดาว รวมถึงบรรยากาศของทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
จุดชมวิวดอยช้าง ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ห้วยน้ำดัง ตามถนนลูกรังประมาณ 20กิโลเมตร เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้กัน ดอยสามหมื่น ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ห้วยน้ำดัง ตามถนนลูกรังประมาณ 30 กิโลเมตร ต้องอาศัยรถ 4 WD ไปเท่านั้น ในฤดูหนาว ระหว่าง เดือนพฤศจิกายน-มกราคม จะได้ชมดอกบัวตอกบานสะพรั่งทั่วดอยสามหมื่น
บริเวณจุดชมวิวด้อยช้าง จุดชมวิวดอยช้างคือยอดดอยที่สูงที่สุดของอุทยานฯห้วยน้ำดัง เปรียบเป็นห้องสมุดธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์มาก เป็นจุดที่สามารถมองเห็นสภาพธรรมชาติของทิวเขาสลับซับซ้อนและทะเลหมอกยามเช้าได้อย่างสวยงามไม่แพ้จุดชมวิวกิ่วลม ที่นี่ยังมีลานกาง เต็นท์ขนาดกลางรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ หลีกหนีความวุ่นวายจากผู้คน และสะดวกต่อการเฝ้ารอชมทะเลหมอกยามเช้า ที่นี่ด้วยเพราะจุดชมวิวดอยช้างตั้งห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ถึง 20 กิโลเมตร หากตั้งแค้มป์ที่นี่ก็ไม่ต้องตื่นกันตั้งแต่ตีสามหรือตีสี่ และยัง ปลอดภัย ว่าหากเดินทางมาช่วงกลางวันเพราะเส้นทางมาที่นี่เป็นถนนลูกรังตลอด 20 กิโลเมตร ต้องอาศัยรถขับเคลื่อนสี่ล้อมาเที่ยว และ เที่ยวได้ เฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น ในด้านการบริการอื่นๆที่นี่มีเพียงเจ้าหน้าที่ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ร้านค้า และลานจอดรถให้บริการเท่านั้น คุณควรเตรียม อุปกรณ์ทุกอย่างมาให้พร้อม หรือเช่าจากที่ทำการอุทยานฯ ก่อนเดินทางมาจุดชมวิวดอยช้าง
ที่นี้มีจุดกางเต็นท์หลักๆ 2 จุด แต่หลากทำเลให้คุณเลือกได้ตามใจชอบ บริเวณที่ทำการอุทยานฯห้วยน้ำดัง ที่นี่ถือเป็นจุดกางเต็นท์ หลักของห้วยน้ำดัง ไม่เพียงมีบ้านพักหลังใหญ่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกไว้รองรับ นักท่องเที่ยว อย่างสะดวกสบาย เท่านั้น ยังมีลานกางเต็นท์หลายจุดทั่วพื้นที่ของอุทยานฯ ขนาดกว้างขวางให้คุณเลือกได้ตามใจชอบ บางจุดอยู่ใต้ร่มไม้ ก็สามารถหลบลมหนาว ได้ดีหน่อย บางจุดเป็นลานสนามหญ้าโล่งหนาวหน่อย แต่ก็ชมวิวได้สวยงาม และบางจุดยังมีลานแค้มป์ไฟให้คุณผิงไฟทามกลางสายลมหนาว ได้ด้วย โดยคุณจะเลือกนำเต็นท์มาเอง หรือขอเช่าเต็นท์ พร้อมเครื่องนอนที่นี่ก็มีให้ บริการครบครัน และยังมีร้านอาหารสวัสดิ์การ ร้านค้า ห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกชายหญิงบริการด้วย
CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติ ห้วยน้ำดัง เชียงใหม่
(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)
วันเปิดทำการ
เปิดทุกวัน เวลาเปิดทำการ : 08.00 -18.00 น.
ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท (ผู้สูงอายุ ไม่มีค่าธรรมเนียม)
ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
แผนที่เข้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
At site:อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ บนทางหลวง หมายเลข 1095 สายแม่มาลัย-ปาย บริเวณกิโลเมตรที่ 65-66
Best way to go :จากอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 107 จนถึงตลาดแม่มาลัย ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1095 สายแม่มาลัย-ปาย จนถึงช่วงกิโลเมตรที่ 65-66 จะมีทางแยกขวามือเข้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
Best time :ตลอดปี แต่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ดอกบัวตองที่ดอยสามหมื่นจะบานสะพรั่งเต็มดอยสวยงามที่สุด
ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก มีอุปกรณ์ให้เช่า ได้แก่ เต็นท์ ,ที่นอน ,ที่รองนอน ,ผ้าห่ม ,ถุงนอน ,หมอน ,เตา ,หม้อ เป็นต้น และมีบ้านพักบริการ รวมทั้งสถานที่กางเต็นท์ ร้านอาหาร และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว รายละเอียดติดต่อ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง หมู่ที่ 5 ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 50300 โทร. โทรศัพท์ 0-5324-8491 ,0-5326-3910 (มือถือ 08-4908-1531) หรือ กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร.0-2562-0760 www.dnp.go.th
บ้านพักทางการที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ
CFFThailand.com แนะนำท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติ ห้วยน้ำดัง เชียงใหม่
(***เป็นข้อมูลในการแนะนำท่องเที่ยวไม่สามารถนำไปใช้จองห้องพักได้นะครับ***)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ขอขอบคุณ ที่มา : Places & Prices กางเต็นท์ทั่วไทย Camping Site around Thailand / www.Thai.Tourismthailand.org / www.dnp.go.th
Pacsafe MetroSafe 50 GII (Plum มี 1ใบ) :
฿1,400.- Sale 28% (฿1,008.-)
Description :
The new Metrosafe 50 GII Digi Pouch is a compact padded carry pouch for your digital camera, mp3 player or mobile phone. this handy number can be slung round the neck, over the shoulder or attached to a belt, keeping your valuables and most used digital items easily at hand and completely secure.
Anti-theft Features :
• eXomesh® slashguards
• Slashproof Carrysafe® shoulder strap
• Smart flap hook
• Smart zipper security™
Additional Features :
• Zippered main compartment
• Sleeve on back to securely attach to belt
• Velcro® and buckle closure on front flap
• Soft banlin lining to protect electronic devices
• Headphone port
• Slip pocket for storing neck cord
Specifications :
• Materials: nylon 420D HD, mini ripstop
• Dimensions (W x H x D): 10 x 14 x 4.5 cm. / 3.9 x 5.5 x 1.8 in
• Volume: 0.25 L. / 15.3 in3
• Weight: 120 g. / 4.2 oz.
• Strap length max: 143 cm. / 56.3 in
• Strap length min: 71 cm. / 28 in
GSI Resin PercView Top : ฿190.-
GSI Glass PercView Top : ฿190.-
อะไหล่สำหรับจุกฝาบนของหม้อต้มกาแฟ GSI มี 2 แบบ ผลิตจากแก้วและผลิตจากเรซิ่นใส ทนความร้อนได้ เกลียวหมุนถอดเปลี่ยนได้ง่าย ใช้กับที่ชงกาแฟตระกูล Glacier Stainless
ขนาด : 4 x 4 x 4 cm.